วิธีเลือก Digital Marketing Agency เจ้าไหนดี ? อ่าน 8 วิธีง่าย ๆ ที่ใช้คัดบริษัทการตลาดออนไลน์ที่รู้จริง

วิธีเลือก Digital Marketing Agency ให้เหมาะกับบริษัทคุณ

1. ตรวจสอบความต้องการของบริษัทและงบประมาณ

การรู้จักความต้องการของบริษัทและกำหนดงบประมาณเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ คุณควรพิจารณาว่าธุรกิจของคุณต้องการบริการใดบ้าง และมีงบประมาณเท่าไรในการลงทุนกับ Digital Marketing Agency นี้

ข้อควรรู้ก่อนเรียก Digital Marketing Agency มาประชุม :

• กำหนดเป้าหมายและความต้องการของธุรกิจอย่างชัดเจนก่อนคุย
• วางงบประมาณ ระยะเวลาร่วมงานและประเมินค่าใช้จ่ายที่คาดหวังในใจก่อน
• Digital Marketing Agency มีหลาย Tier ซึ่งอาจมีคุณภาพในการทำงาน ประสบการณ์ของทีมงาน ความใส่ใจดูแลปรับปรุงประสิทธิภาพแคมเปญ การประสานงาน ฯลฯ ที่แตกต่างกัน

  • หากคุณต้องการความฉับไวและใส่ใจ : ทีมการตลาดออนไลน์ที่ไม่ได้รับโปรเจคจำนวนมากหรือทีมเล็กจะตอบสนองได้ไวกว่าบริษัทที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งมักจะใช้เวลาการตอบกลับ (Turnaround Time) ที่นานกว่า บางครั้งอาจใช้เวลาหลายวันหรือเป็นอาทิตย์ในเรื่องที่อาจใช้เวลาไม่นาน 
  • หากคุณต้องการประสบการณ์และทีมที่ครบครัน : ให้มองหา Digital Marketing Agency ที่มีขนาดกลาง-ใหญ่ขึ้นมาหน่อย พนักงานตั้งแต่ 6-20 คน+ ซึ่งจะมี specialist ดูแลให้คุณในทุกด้าน แต่ก็แลกกับการที่คุณอาจไม่ได้คุยกับผู้ที่ทำงานโดยตรงและมักจะทำงานผ่าน AE อีกที ระยะเวลาการตอบกลับอาจจะช้ากว่าแบบบริษัทเล็กหรือ freelance อยู่บ้าง
  • หากคุณต้องการทุกอย่าง : เพราะมี Digital Marketing Agency 

• พิจารณาใช้บริการปรึกษาธุรกิจเบื้องต้นฟรีเพื่อประเมินความเหมาะสม

การมีงบประมาณและเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่า KPI ที่บริการตลาดออนไลน์แต่ละที่เสนอสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณหรือไม่ 

2. ตรวจสอบผลงานและรีวิวจากลูกค้า

การตรวจสอบผลงานและรีวิวจากลูกค้าที่เคยร่วมงานกับ Digital Marketing Agency ที่กำลังจะทำงานด้วยเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเลือก เพราะแต่ละแห่งมีจุดเด่นและความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน การอ่านรีวิวและดูผลงานจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเอเจนซีได้ดีขึ้น

เคล็ด (ไม่) ลับ :

• ตรวจสอบ Portfolio ของเอเจนซีเจ้านั้น
• อ่านรีวิวจากลูกค้าเก่า
• สอบถามเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ได้รับจากแคมเปญที่ผ่านมา

การมีผลงานที่ดีและรีวิวที่ดีจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ซึ่งนี่เป็นวิธีเลือก Digital Marketing Agency ที่ตรงจุดที่สุดในช่วงเริ่มต้น

3. พิจารณาบริการที่มีให้

วิธีเลือก Digital Marketing Agency ที่ควรทำต่อมาคือการให้บริการที่ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็น SEO, Social Media Marketing, Content Marketing, Email Marketing หรือการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)

บริการที่ควรพิจารณา :

• SEO (Search Engine Optimization) : ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏบนหน้าแรกของ Google
• Social Media Marketing : สร้างความเชื่อมโยงกับลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย
• Content Marketing : สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพเพื่อดึงดูดลูกค้า
• Email Marketing : ส่งเสริมการขายผ่านอีเมล

การมีบริการที่หลากหลายจะช่วยให้คุณสามารถจัดการแคมเปญการตลาดได้อย่างครอบคลุม และสามารถเพิ่มผลลัพธ์ทางการตลาดอย่างน่าพอใจได้ในอนาคต

4. ตรวจสอบความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี

ในยุคดิจิทัล การใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยเป็นสิ่งสำคัญ Digital Marketing Agency ที่ดีควรใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ

เครื่องมือที่ควรพิจารณา :

• Google Analytics : สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์
• Social Media Management Tools : เช่น Hootsuite หรือ Buffer
• SEO Tools : เช่น Ahrefs หรือ Google Search Console

การใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถติดตามผลลัพธ์และปรับปรุงแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. พิจารณาความสามารถในการปรับตัว

การตลาดดิจิทัลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นวิธีเลือก Digital Marketing Agency ที่ดีควรต้องสามารถปรับตัวและปรับปรุงกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วตามเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ หรืออีกนัยหนึ่งคือบริษัทที่คุณจ้างจะต้องปรับเปลี่ยนแคมเปญหรือกลยุทธ์ให้ทันต่อการแข่งขันในตลาด ไม่อย่างนั้นคุณก็คงจะพลาดโอกาสต่าง ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย

เคล็ด (ไม่) ลับ :

• ตรวจสอบว่าบริษัทเอเจนซีนั้นมีการอัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ บ่อยหรือไม่ 
• สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ในการปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์ใหม่ ๆ และความเร็วในการปรับเปลี่ยน
• พิจารณาว่าพวกเขามีการจัดอบรมหรือการอัปเดตทักษะและเทรนนิ่งให้กับพนักงานหรือไม่

การปรับตัวได้อย่างรวดเร็วจะช่วยให้คุณสามารถแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้

6. ตรวจสอบความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล

การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญของบริษัท Digital Marketing Agency ดังนั้นจึงควรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้

เคล็ด (ไม่) ลับ :

• ตรวจสอบว่าบริษัทเอเจนซี่มีการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่ทันสมัยหรือไม่ โดยมาก Digital Marketing Agency มักจะต้องมีเครื่องมือเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ SEO, เครื่องมือ social media ฯลฯ รวมถึง technical know-how ที่สูงกว่าการจ้างพนักงานทั่วไป ซึ่งสามารถหาข้อมูลได้ลึกมากกว่าในเวลาอันสั้น 
• สอบถามเกี่ยวกับวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่ได้ข้อมูลจำนวนมากในมือ แต่ยังสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาวางแผนการตลาด สร้างแคมเปญให้ประสบความสำเร็จได้อย่างเหมาะสม
• พิจารณาว่าบริษัทเอเจนซีเจ้านั้นสามารถให้คำแนะนำในการปรับปรุงแคมเปญตามข้อมูลที่วิเคราะห์ได้หรือไม่ อย่างไร วัดผลจาก cost/result ที่ลดลง จำนวน leads ที่มีคุณภาพสูงขึ้น ฯลฯ 

การมีข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และมองเห็นภาพว่าเมื่อทำงานร่วมกันแล้วจะแก้ปัญหาให้ธุรกิจคุณได้จริงไหม

7. ตรวจสอบความสามารถในการสื่อสาร

การสื่อสารที่ดีเป็นกุญแจสำคัญในการทำงาน และเป็นวิธีเลือก Digital Marketing Agency ที่สำคัญมากอีกประการ เพราะคุณจะตรวจสอบได้ว่าพวกเขาสามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจนและตรงประเด็นหรือไม่

เคล็ด (ไม่) ลับ :

• สอบถามเกี่ยวกับวิธีการสื่อสารและอัปเดตความคืบหน้า
• ตรวจสอบว่าบริษัทเอเจนซี่มีระบบการรายงานที่ชัดเจนหรือไม่
• พิจารณาว่าบริษัทเอเจนซี่สามารถตอบคำถามและให้คำแนะนำได้อย่างรวดเร็วหรือไม่

การสื่อสารที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดนั่นเอง

8. ตรวจสอบการรับรอง รางวัล หรือประสบการณ์

การรับรองและรางวัลจากองค์กรที่มีชื่อเสียงสามารถเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชี่ยวชาญและคุณภาพ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเลือก Digital Marketing Agency ที่ไม่ควรมองข้าม โดยมีแนวทางดังนี้

เคล็ด (ไม่) ลับ :

• ตรวจสอบการรับรองจาก Google หรือ Facebook
• สอบถามเกี่ยวกับรางวัลหรือการยอมรับจากองค์กรอื่น ๆ
• พิจารณาว่าบริษัทเอเจนซี่นี้มีการเข้าร่วมงานอิเวนต์หรือการประชุมด้านการตลาดหรือไม่

การมีการรับรองและรางวัลจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของบริษัท Digital Marketing Agency แต่หากไม่ได้มีรางวัลการันตีเราต้องมั่นใจในผลงานที่ดีและประสบการณ์ที่มีสะสมมาในระดับหนึ่ง